บทสวดมนต์อิติปิโส เป็นบทสวดมนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย เชื่อว่าเป็นบทสวดที่มีอานิสงส์มากมาย อานิสงส์ของบทสวดมนต์อิติปิโสสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
อานิสงส์จากการสวดมนต์ บทอิติปิโส
- ช่วยให้มีสติ สมาธิ จิตใจแน่วแน่มั่นคง
- ช่วยเสริมดวงชะตา แคล้วคลาดปลอดภัย
- ช่วยส่งเสริมความสำเร็จในด้านต่าง ๆ ในชีวิต
- ช่วยคุ้มครองป้องกันภัยจากสิ่งชั่วร้าย
- ช่วยปัดเป่าสิ่งอัปมงคล
- ช่วยเจริญปัญญา ระลึกถึงพระรัตนตรัย
- ช่วยชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์
- ช่วยเสริมสร้างบารมี
- ช่วยก้าวหน้าในทางธรรม
นอกจากนี้ การสวดมนต์อิติปิโสยังช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางจิตใจ จิตตั้งมั่น ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลายจากความเครียด และช่วยให้มีกำลังใจในการใช้ชีวิตอีกด้วย
วิธีสวดมนต์อิติปิโส
บทสวดมนต์อิติปิโสมีทั้งหมด 108 บท สามารถสวดได้ทุกวันหรือสวดเฉพาะโอกาสพิเศษก็ได้ โดยการสวดมนต์อิติปิโสนั้น ควรสวดด้วยจิตใจที่สงบนิ่ง ตั้งจิตให้มั่น และตั้งใจในการสวดมนต์
สำหรับวิธีสวดมนต์อิติปิโส มีดังนี้
1. ตั้งนะโม 3 จบ
2. สวดบทอิติปิโส 1
3. นั่งสมาธิ เจริญภาวนาตามกำลังศรัทธา
4. แผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์
บทสวดมนต์อิติปิโส
อิติปิ โส ภะคะวา (เพราะเหตุอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น)
อะระหัง (เป็นผู้ไกลจากกิเลส)
สัมมาสัมพุทโธ (เป็นผู้ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง)
วิชชาจะระณะสัมปันโน (เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ)
สุคะโต (เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี) โลกะวิทู (เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง)
อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ (เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้ อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า)
สัตถา เทวะมนุสสานัง (เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย)
พุทโธ (เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม)
ภะคะวาติ. (เป็นผู้มีความจำเริญจำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ ดังนี้)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม (พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว)
สันทิฏฐิโก (เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง)
อะกาลิโก (เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล)
เอหิปัสสิโก (เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด)
โอปะนะยิโก (เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว)
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ. (เป็นสิ่งที่ผู้รู้ พึงรู้ได้เฉพาะตน ดังนี้ ฯ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ (สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติดีแล้ว)
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ (สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติตรงแล้ว)
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ (สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว)
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ (สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติสมควรแล้ว)
ยะทิทัง (ได้แก่บุคคลเหล่านี้คือ) จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา (คู่แห่งบุรุษสี่คู่ นับเรียงตัวได้แปดบุรุษ)
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ (นั่นแหละ สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า)
อาหุเนยโย (เป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา)
ปาหุเนยโย (เป็นผู้ควรแก่สักการะที่จัดไว้ต้อนรับ)
ทักขิเณยโย (เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน)
อัญชะลีกะระณีโย (เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี)
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ. (เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้)