ศาลเจ้าที่หรือศาลตายาย เป็นเรือนเล็กที่สร้างขึ้นเพื่อเชิญวิญญาณเจ้าที่เจ้าทางที่เป็นเจ้าของดินและมีความผูกพันกับพื้นที่นั้น
เชื่อว่าเจ้าที่มีบทบาทในการปกป้องและดูแลบ้านเรือนให้ปลอดภัยจากภยันอันตรายจากสิ่งที่ไม่เป็นมงคล
ทำความเข้าใจถึงหลักการในการตั้งศาลศาลเจ้าที่หรือศาลตายาย
-ตั้งศาลออกมาให้ไกลจากตัวบ้าน ตั้งศาลให้อยู่คนละระดับกับตัวบ้าน
-ห้ามตั้งไปทางทิศตะวันตกโดยตรง
-ห้ามตั้งไว้ใต้บันได
-ห้ามตั้งในตำแหน่งใต้คานบ้าน
การไหว้ศาลเจ้าที่
ทำความสะอาดพื้นที่ในทุกครั้ง ก่อนจะไหว้ศาลตายาย (เจ้าที่) จากนั้นนำของไหว้มาถวาย พร้อมจุดธูปไหว้เจ้าที่ 5 ดอก ต่อด้วยการกล่าวคำไหว้เจ้าที่หรือคาถาไหว้เจ้าที่ ตั้งนะโม 3 จบ
“อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหังฯ”
จากนั้นทำการขอขมา เสร็จแล้วอธิษฐานและปักธูปลงในกระถางหรือของเส้นไหว้ เพียงแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี
การลาของไหว้
ทำได้หลังจากธูปที่จุดไว้นั้นหมดดอก หรือรอสักประมาณ 30 นาทีก็ให้เริ่มต้นลาของไหว้
ตั้งนะโม 3 จบแล้วพูดว่า "เสสังมังคลัง ยาจามิ" ซึ่งแปลได้ว่า "ลูกขอส่วนที่เหลืออันเป็นมงคล เพื่อยังประโยชน์ เพื่อความสุขความเจริญ แก่ลูกด้วยเจ้าพระคุณ..."
ของไหว้ศาลเจ้าที่
นอกจากคำถามที่ว่าไหว้เจ้าที่ใช้ธูปกี่ดอกแล้ว ของไหว้ศาลเจ้าที่มีอะไรบ้างก็เป็นสิ่งที่หลายคนสงสัยและอยากรู้เช่นกัน ซึ่งจะมีสิ่งที่ควรถวายและข้อควรระวังอย่างไร ไปดูกันเลย
ของคาว
สำหรับของคาวที่ใช้ถวายเจ้าที่จะนิยมใช้เป็นหัวสัตว์อย่าง หัวหมูหรือหัวไก่ที่ผ่านกรรมวิธีการทำให้สุกมาแล้ว รวมถึง ข้าวสุกและต้มแกงต่างๆ
ของหวาน
ในส่วนของหวานที่นิยมนำมาถวาย ได้แก่ ขนมที่ทำมาจากนมและเนย หรือ วุ้นผลไม้ เช่น วุ้นมะพร้าว และขนมไทยที่มีความหมายมงคลต่างๆ เช่น ฝอยทอง เม็ดขนุน หรือทองเอก เป็นต้น
ผลไม้
หากใครที่กำลังมองหาผลไม้ไหว้เจ้าที่บ้านใหม่อยู่ละก็ จะต้องไม่พลาดกับผลไม้ความหมายดีต่างๆ เหล่านี้ เช่น องุ่น แก้วมังกร และอื่นๆ ที่นอกจากจะเหมาะกับการถวายเจ้าที่แล้ว ยังเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยเสริมสุขภาพให้แข็งแรงและขับถ่ายง่ายขึ้นด้วย
เครื่องดื่ม
เครื่องดื่มที่ใช้ไหว้เจ้าที่ ส่วนใหญ่ถวายเป็นน้ำเปล่า น้ำชา และน้ำอัดลม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับน้ำแดงที่คนไทยหลายคนอาจชินตา เนื่องจากน้ำแดงเป็นน้ำที่มีสีคล้ายเลือด คนส่วนใหญ่จึงนิยมใช้ถวายเพื่อแสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนั้น เกี่ยวกับความเชื่อเรื่องสี สีแดงยังสื่อถึงความแข็งแกร่งและพลังอำนาจอีกด้วย
ของที่ห้ามถวาย
แน่นอนว่าในการไหว้เจ้าที่ก็มีสิ่งของที่ห้ามถวายเช่นกัน เช่น ผลไม้อย่างละมุด มะเฟือง พุทรา และผลไม้อื่นๆ ที่มีความหมายไม่ดี ซึ่งอาจทำให้นำอุปสรรคต่างๆ นานาเข้ามาในชีวิตได้
ข้อมูลเพิ่มเติม
“อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหังฯ”
คาถาแก้วสารพัดนึกของหลวงพ่อโอภาสีบทนี้ แท้จริงแล้วก็คือ คาถายอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎกที่หลวงพ่อโอภาสีนำมาย่อและเรียบเรียงใหม่ เพื่อให้ง่ายต่อการท่องจำของลูกศิษย์และผู้ศรัทธา นิยมใช้สวด หากอยู่กับบ้าน ก็ใช้ป้องกันอันตรายที่จะเข้ามา หากใช้สวดก่อนออกจากบ้าน ก็จะคุ้มกันภัยอันตรายตลอดการเดินทาง หากไปต่างถิ่น ก็ใช้สวดป้องกันอันตรายต่างๆ จากเหล่าภูตผีปีศาจ ที่อาจเป็นเจ้ากรรมนายเวรขัดขวาง เมื่อเดินทางไปที่เปลี่ยวให้หยุดภาวนาที่ต้นไม้ใหญ่หรือบริเวณศาลเจ้า ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณนั้นช่วงปกปักษ์รักษาให้ปลอดภัย
คาถาของหลวงพ่อโอภาสีบทนี้ ยังให้พุทธคุณ ในด้านความร่ำรวย เป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์มาก คนทำงาน คนที่ค้าขาย สวดทุกครั้งที่เปิดร้าน จุดธูปบอกเจ้าที่ อธิษฐานให้ขายดีมีกำไร เดือนร้อนใจ ก็สวดขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวร ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ด้วย อธิษฐานสิ่งใด เทวดาท่านจะอนุเคราะห์ สุดความสามารถ เจ้ากรรมนายเวรได้ยิน จะยอมอโหสิกรรมให้ และที่สำคัญ อย่าลืมอุทิศบุญไปให้หลวงพ่อโอภาสีด้วยหลังจากการสร้างบุญทุกครั้ง
อานุภาพของคาถาหลวงพ่อโอภาสีนี้ เชื่อกันว่า ให้พุทธคุณกันแบบครอบจักรวาลเลยทีเดียว ขอให้ผู้ที่สวดตั้งใจ ให้ทาน รักษาศีล เป็นพื้นฐานอย่างมั่นคง แล้วการสวดมนต์ย่อมได้ผล ช่วยเหลือคุ้มครอง และสนับสนุนให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างแน่นอน
Cr. ที่มา วัดหลวงพ่อโอภาสี